Table of Contents

สมัคร Google AI Ultra Subscription เพื่อปลดล็อก AI ขั้นสูง

Facebook
X
LinkedIn
Google AI Ultra Subscription

ในโลกของบริการ AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว Google ได้เปิดตัวบริการระดับพรีเมียมอย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อ Google AI Ultra Subscription ซึ่งเป็นแผนการใช้งานแบบเสียเงินที่ให้สิทธิ์เข้าถึงโมเดล AI ที่ล้ำหน้าที่สุดของ Google นั่นคือ Gemini 1.5 Ultra 

แผนนี้ออกแบบมาสำหรับผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย นักพัฒนา และธุรกิจที่ต้องการพลัง ประสิทธิภาพ และความสามารถขั้นสูงจาก AI 

Google AI Ultra Subscription คืออะไร? 

Google AI Ultra Subscription เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ Gemini ของ Google โดยเปิดให้ผู้ใช้เข้าถึงโมเดล Gemini 1.5 Ultra ซึ่งมาพร้อมกับ: 

  • รองรับบริบทขนาดใหญ่: ใช้โทเคนได้สูงสุดถึง 1 ล้านโทเคน เหมาะสำหรับเอกสารหรือชุดข้อมูลขนาดใหญ่ 
  • การวิเคราะห์เชิงตรรกะขั้นสูง: มีความสามารถในการสรุปเหตุผล วิเคราะห์ และเข้าใจโค้ดได้อย่างแม่นยำ 
  • รองรับอินพุตหลากหลายรูปแบบ: รับข้อความ โค้ด และรูปภาพ 
  • ประมวลผลแบบลำดับความสำคัญ: เข้าถึงคอมพิวต์ที่เร็วกว่าและเสถียรกว่า 

โดยสามารถสมัครเป็นส่วนหนึ่งของ Google One AI Premium ซึ่งเป็นแผน Gemini Advanced แบบอัปเกรดได้ 

คุณสมบัติที่สำคัญ

ฟีเจอร์ 

รายละเอียด 

การเข้าถึงโมเดล 

Gemini 1.5 Ultra 

ขนาดหน้าต่างโทเคน 

1 ล้านโทเคน 

รองรับอินพุตมัลติโหมด 

ข้อความ, โค้ด, รูปภาพ 

รองรับหลายภาษา 

มากกว่า 35 ภาษา 

แอปพลิเคชันที่ผสานใช้งาน 

Gmail, Docs, Sheets (ผ่าน Gemini Sidebar) 

การตอบสนองแบบลำดับความสำคัญ 

มี 

API สำหรับนักพัฒนา 

ใช้งานได้ผ่าน Google AI Studio 

เหมาะสำหรับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล นักพัฒนา และผู้ใช้ในองค์กรที่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูงจากเครื่องมือ AI 

ราคา Subscription 

แผน 

ราคาต่อเดือน (USD) 

สิทธิ์การเข้าถึง 

Gemini Free 

$0 

Gemini 1.0 Pro (บริบทจำกัด) 

Gemini Advanced 

$19.99 

Gemini 1.5 Ultra + ฟีเจอร์ AI 

Google One AI Premium 

$19.99 

รวม Gemini Advanced + พื้นที่เก็บข้อมูล 2TB 

หมายเหตุ: หากสมัคร Google One AI Premium จะได้รับสิทธิ์ Gemini Advanced รวมอยู่แล้ว ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม 

เปรียบเทียบ Ultra Subscription กับแผนใช้งานฟรี 

ฟีเจอร์ 

แผนฟรี (Gemini) 

AI Ultra Subscription 

โมเดล 

Gemini 1.0 Pro 

Gemini 1.5 Ultra 

บริบทโทเคน 

สูงสุด 32,000 โทเคน 

สูงสุด 1 ล้านโทเคน 

อินพุตภาพ 

จำกัด 

รองรับมัลติโหมดเต็มรูปแบบ 

ประสิทธิภาพ 

มาตรฐาน 

ประมวลผลแบบลำดับความสำคัญ 

การผสานกับ Google Workspace 

ขั้นพื้นฐาน 

ผสานใช้งานอย่างลึกซึ้ง 

หากคุณมีการทำงานที่ต้องใช้การสร้างคอนเทนต์ขนาดใหญ่ วิเคราะห์เชิงลึก หรือทำวิจัยระดับสูง แผน Ultra จะตอบโจทย์ได้อย่างดีเยี่ยม 

กรณีการใช้งาน

  • การวิเคราะห์เอกสารองค์กร: อัปโหลดสัญญา คู่มือ หรืองานเอกสารทางกฎหมายเพื่อสรุปสาระสำคัญ 
  • การเขียนโค้ดและดีบั๊ก: รองรับการป้อนโค้ดทั้งโปรเจกต์ พร้อมช่วยแก้ไขและแนะนำ 
  • การวิเคราะห์ข้อมูลและวิจัย: ประมวลผลชุดข้อมูลหรือเอกสารวิชาการขนาดใหญ่ 
  • งานสร้างสรรค์: สร้างบทความ โครงการโฆษณา หรือสคริปต์ผ่านคำสั่งที่หลากหลาย 
  • สถาบันการศึกษา: เปิดให้ห้องวิจัยและแล็บเข้าถึงเครื่องมือ AI ขั้นสูง 

สรุปท้ายบทความ 

Ultra Subscription ทำให้ Google ก้าวเข้าสู่ตลาด AI ระดับพรีเมียมอย่างเต็มตัว แข่งขันกับ ChatGPT Plus ของ OpenAI และ Copilot ของ Microsoft ได้อย่างสูสี ด้วยโมเดล Gemini 1.5 Ultra ที่ทรงพลัง การประมวลผลที่รวดเร็ว และการผสานใช้งานกับแอปใน Google Workspace อย่างลงตัว 

หากความต้องการด้าน AI ของคุณเกินกว่าการใช้คำสั่งธรรมดา และเข้าสู่ระดับของการวิเคราะห์ สร้างสรรค์ หรือทำงานเชิงลึก Ultra Subscription คือการลงทุนที่คุ้มค่า 

บทความอื่นๆ

หากคุณชอบบทความนี้ โปรดสมัครเป็นสมาชิกช่อง YouTube ของเราเพื่อรับวิดีโอแนะนำ WordPress นอกจากนี้คุณยังสามารถติดตามเราได้บน TikTok

Frequently Asked Questions (FAQ)

เทคนิคทั่วไปที่ใช้โดยเครื่องกำเนิด AI ได้แก่ การเรียนรู้เชิงลึกและเครือข่ายประสาท การเรียนรู้เชิงลึกเกี่ยวข้องกับการฝึกเครื่องกำเนิดเพลงเทียมบนชุดข้อมูลขนาดใหญ่ของเพลงที่มีอยู่ จากนั้นเครื่องกำเนิดจะวิเคราะห์รูปแบบและโครงสร้างของเพลงเพื่อสร้างผลงานใหม่

โดยทั่วไปแล้ว แพลตฟอร์มเพลง AI จะให้สิทธิ์เฉพาะแก่ผู้ใช้ในเพลงที่สร้างขึ้น ทำให้สามารถเพิ่มเพลงดังกล่าวลงในโปรเจกต์ของตนได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกฎหมาย ซึ่งอาจรวมถึงสิทธิ์ในการแก้ไขเพลง ใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือแบ่งปันเพลงดังกล่าวบนแพลตฟอร์มต่างๆ

Beatoven.ai: เครื่องสร้างเพลงด้วย AI ปลอดค่าลิขสิทธิ์

เครื่องมือใหม่นี้สามารถตรวจจับดนตรีที่สร้างขึ้นโดยเทียมจากโมเดลกำเนิดจำนวนหนึ่ง เช่น Suno และ Udio และยังสามารถเพิ่มความสามารถในการตรวจจับสำหรับเครื่องมือที่คล้ายกันอื่นๆ ได้อีกด้วย ตราบใดที่สามารถเข้าถึงตัวอย่างข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

การใช้ AI ในดนตรีได้จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงกันอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการแต่งเนื้อเพลงและการสร้างทำนองใหม่ แม้ว่าเพลงที่สร้างโดย AI ทั้งหมดจะไม่สามารถมีลิขสิทธิ์ได้ แต่สำหรับเพลงที่ช่วยเหลือด้วย AI สถานการณ์จะแตกต่างกัน เป็นที่เข้าใจได้ว่าความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์สมควรได้รับการปกป้อง

Facebook
X
LinkedIn
Scroll to Top